รู้ไว้ก่อน ฉีดฟิลเลอร์ง่ายนิดเดียวแต่อันตรายถึงชีวิต

ด้านกระแสความนิยม การตามเพื่อนหรือให้ความสนใจในเรื่องรูปร่างหน้าตาของคนในปัจจุบันต้องสวย ต้องหล่อ ดูดี ที่ทำให้ได้งานบ้าง มีคนเข้ามาบ้าง แต่เดี๋ยวก่อนการให้คำตอบจากกการศัลยกรรมก็ไม่ใช่ทางออกสำหรับผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป หลายคนได้เสียใจร้องไหนกับการลงเชื่อข้อมูลที่เป็นเท็จ และในตอนนี้ก็มีการโปรโมทราคา โปรโมชั่นขึ้นมาตามคลินิกมากมาย ที่ทำให้คนจากที่สนใจและมีความต้องการกันอยู่แล้ว ยิ่งให้ความสนใจกันมากยิ่งขึ้นกับราคาที่ถูกลงแต่สิ่งนั้นเป็นแรงจูงใจให้เราแต่ไม่สามารถทราบได้เลยว่าสินค้าจะมีคุณภาพหรือเปล่า

แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงเชื่อไปแล้วจนทำให้มีปัญหาเกิดตามมาทีหลังไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมใด ๆ ก็ตาม แต่ก่อนที่คุณต้องเสียน้ำตา เสียเงินเสียแล้วเสียอีก คุณสามารถเลือกได้เองก่อนที่จะสายเกินที่จะแก้

การฉีดฟิลเลอร์อันตรายอย่างไร?

อธิบายก่อนเลยว่าสารเติมเต็มหรือที่เรียกกันติดปากว่าฟิลเลอร์ เมื่อฉีดเข้าไปจะมีการกระจายตัวไปตามส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังในบริเวณที่เราฉีดไป ยิ่งถ้าฉีดในชั้นผิวหนังตื้น ๆ ติดกับผิวหนังชั้นนนอกแล้วถ้าได้แก้จะเกิดปัญหาการแก้ที่ยากมาก เนื่องจากเสี่ยงต่อการทะลุของผิวหนัง และทำให้ผิวหนังเราบาดเจ็บได้ง่ายอีกด้วย

สารเติมเต็มมีอะไรบ้าง

สารเติมเต็ม มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกันคือสารไบโอ ซิลิโคนเหลว และฟิลเลอร์ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีทั้งสามารถดูดออกได้ และดูดออกไม่ได้ ต้องผ่าตัดเลาะออกเท่านั้น สารที่

• สารที่สามารถดูดออกได้จะมีลักษณะเป็นเหมือนเจลวุ้น ๆ
• สารที่ไม่สามารถดูดออกได้ จะมีลักษณะเหนียว ๆ ก้อน ๆ ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการเลาะออกเท่านั้น

ปัญหาที่เกิดจากการฉีดสารเติมเต็ม

1. การไหลของซิลิโคน
2. การจับตัวเป็นก้อน
3. ใบหน้าผิดรูป

สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ ที่คลินิกส่วนใหญ่ใช้ ฟิลเลอร์จะอยู่ในราคาที่สูงมีหลายเกรด หลายยี่ห้อ ให้เลือกขึ้นอยู่กับคลินิกนั้น ๆ แต่บางคลินิกใช้เป็นซิลิโคนหรือสารไบโอมาฉีดให้ลูกค้าแต่อ้างว่าเป็นฟิลเลอร์เพราะมีราคาที่ถูกกว่าซึ่งไม่ได้รับมาตรฐาน โดยคนไข้ส่วนมากจะไม่ทราบเลยว่าเป็นฟิลเลอร์จริงหรือไม่ซึ่งทั้งสองชนิดนี้เมื่อฉีดเข้าไปในผิวจะเป็นอันตรายในระยะยาว

ปัจจุบันถ้าใครทราบข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการฉีดสารข้าสู่ร่างกายเพื่อก้ไขรอยเหี่ยวย่น หรือช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงสามารถฉีดไขมันจากร่างกายได้แล้วเพราะว่าไขมันเป็นส่นหนึ่งของร่างกายเราเอง ร่างกายจะไม่เกิดปฏิกิริยาการปฏิเสธ ทำให้ไม่เกิดอาการอักเสบด้วย