ข้อดีและข้อเสียการเสริมคาง ของแผลด้านนอกและด้านใน

การเสริมคางเป็นการศัลยกรรมให้รูปหน้ามีความสมดุลกันละทำให้ใบหน้าเรียวหรือที่นิยมเรียกกันว่าใบหน้ารูปนั่นเอง การทำศัลยกรรมมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ การเสริมคางด้านในและด้านนอกซึ่งทั้งสองวิธีการนี้มีข้อแตกต่างในการทำในเรื่องของวิธีการทำและการพักฟื้นหลังการผ่าตัด

วิธีการผ่าตัดเสริมคาง

วิธีที่ 1 การเสริมคางด้านนอก(ใต้คาง)

การทำการผ่าตัดที่ใต้คางแล้วนำซิลิโคนที่ได้ทำการเหลาในแต่ละเคสและเย็บแผลในขั้นตอนนี้ใช้เวลาในการทำประมาณ 20-30 นาทีเป็นขั้นตอนที่ง่ายถ้าตามศัลยกรรมทางแพทย์แล้ว มีโอกาสในการติดเชื้อได้น้อยกว่าแต่ต้องอยู่ที่การดูแลหลังการผ่าตัดด้วยนะ ผู้ทำศัลยกรรมหลังจากการผ่าตัดไม่ต้องพักฟื้นนานสามารถเดินเล่น ช็อปปิ้งหรือทำงานต่อได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น

วิธีที่ 2 การเสริมคางด้านใน 

การผ่าตัดด้านในปาก ระหว่างซอกเหงือกกับริมฝีปาก ความยาวของแผลจะอยู่ประมณ 2 เซนติเมตร (ในขั้นตอนนี้จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อหน่อย) หลังจากการเปิดแล้วจะแยกเยื่อหุ้มกระดูกตรงขอบด้านล่างแล้วนำแท่งซิลิโคนมาวาเข้าไปหลังจากนั้นแพทย์จะเย็บด้วยไปหมละลายวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้เลย

เปรียบข้อดีข้อเสียการเสริมคางด้านนอก ด้านใน

  • การเสริมคางด้านในเส่ี่ยงต่อการติดเชื้อน้อยกว่าด้านนอก
  • การเสริมคางด้านในมีโอกาสในการเคลื่อนของซิลิโคนน้อยกว่าด้านนอก
  • เมื่อมีปัญหาการแก้คางด้านในจะทำได้ยากกว่าด้านนอก
  • การเสริมคางด้านนอกสามารถวางตำแหน่งได้ง่ายกว่าด้านใน

เมื่อเปรียบเทียบแล้วเห็นได้ว่าการเสริมคางด้านในเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายกว่าการเสริมคางด้านนอกและมีผลเสี่ยงน้อยกว่าด้วยทั้งนี้อาจขึ้นอยุ่กับแพทย์ที่ทำการผ่าตัดว่าโครงหน้าของเราด้วยว่าต้องใช้วิธีการแบบไหนแต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการแพทย์ทำให้เกิดปัญหาหลังการทำศัลยกรรมน้อยลงแต่ก่อนผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ดี ๆ ก่อนนะคะ เดี๋ยวคางเบี้ยวแล้วจะเสียใจทีหลังได้