โบท็อกซ์ริ้วรอย (Botox) ลดริ้วรอย รอยย่น และตีนกา ฉีดโบท็อกที่ไหนดี
มาทำความรู้จักเกี่ยว โบท็อกซ์ (Botox) ที่ใครหลายๆคนนั้น […]
หัวข้อเนื้อหาในเรื่องนี้
การปลูกผมเป็นอีกเทคโนโลยีใหม่อย่างหนึ่งที่เข้ามาทำการศัลยกรรมปลูกผมเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาศรีษะล้าน ผมบาง หรือ มีอาการผมร่วง สาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้จากทางพันธุกรรมและเกิดการร่วงไปตามวัน ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ก็ทำให้มีกรรมวิธีการปลูกผมนี้ขึ้นมาซึ่งที่เห็นกันตามคลีนิคหรือโดยทั่วไปจะพบว่าอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ FUT และ FUE ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีข้อแตกต่างที่สามารถเป็นตัวเลือกให้กับทุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมได้ เรามีข้อมูลดี ๆ และข้อเปรียบเทียบระหว่างกรรมวิธีทั้งสองมาฝากด้วยค่ะ
วิธีที่ 1 FUT
เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่ใช้มากกว่า 90% โดยตัดหนังศีรษะที่ท้ายทอยเป็นแผงออกมาจากบริเวณท้ายทอย แล้วทำการแยกเฉพาะรากผมที่ต้องการ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ จนได้หน่วยรากผมที่เล็กที่สุดที่สามารถนำไปปลูกได้ เมื่อนำากผมไปปลูกบริเวณที่ต้องการผมจะเข้าสู่ระยะพัก โดยจะปริดร่วงไปก่อนในระยะเวลา 3 สัปดาห์ รากผมจะพักและไม่ผลิตเส้นผมเป็นเวลาประมาณ 3-4 เดือน โดยเมื่อแรกเริ่มจะขึ้นมาเป็นขนอ่อน ๆ และค่อยเจริญเติบโตขึ้นเป็นเส้นผมที่แข็งแรงไม่เกิน 12 เดือนเพื่อให้เห็นผลการรักษา วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ได้รับมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุด
ข้อดี FUT
ข้อเสีย FUT
วิธีที่ 2 FUE
เมื่อการผ่าตัดแบบปกติเป็นแบบแผลยาวจึงเกิดเทคนิคใหม่ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความประณีตเป็นอย่างมาก ด้วยการเอารากผมออกจากศีรษะซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ระยะเวลาการทำนานแต่วิธีนี้สามารถนำผมมาปิดบีริเณที่นำเส้นผมออกมาได้เมื่อนำไปปลูกวิธีการนี้จะเห็นผลที่น้อยกว่าวิธีแรกประมาณ 10-15% บวกค่าใช้จ่ายที่มากกว่าแล้วยังเป็นวิธีการที่ทำยากกว่าอีกอย่างไรก็ตามวิธีนี้มีข้อดีตรงบริเวณท้ายทอยจะมีแผลที่เหลือยู่เป็นแผลเล็ก ๆ ขนาดเท่ารูขุมขนแม้จะตัดผมสั้นก็มีโอากาในการมองเห็นน้อย และการพักฟื้นก็น้อยกว่าวิธีมาตรฐานอีกด้วย
ข้อดี FUE
ข้อเสีย FUE
ขั้นตอนแรกเป็นการโกนผมเพื่อเป็นการเตรียมในการดึงเซลล์รากผมออกมา โดยแพทย์จะทำการแยกเซลล์จากรากผมบริเวณหลังศรีษะหรือท้ายทอยหลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือในการแยกเซลล์ชนิดพิเศษและเ็บไว้ในภาชนะที่สะอาดและปลอดเชื้อ
หลังจากนั้นแพทย์ก็จะทำแบบเดียวกับนับรูขุมขนที่มีปัญหาเรื่องการหลุดร่วงของเส้นผมบางหรือไม่มีเลย เมื่อดึงเซลล์รากผมเก่าออกมาจนหมดทั่วบริเวณ ต่อไปก็เป็นการปลูกผมใหม่เข้าไปในรูเซลล์รากผมเดิม เพียงเท่านี้ก็เสร็จสำหรับการศัลยกรรมปลูกผม หลังจากนี้ก็เป็นการดูแลักษาเซลล์รากผมใหม่ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยมทุกกระวบการทำแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยการส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์สเตอริโอที่มีประสิทธิภาพสูงในการขยายภาพเซลล์รากผมให้เห็นได้อย่างชัดเจน
สาเหตุโดยทั่วไปที่อาจพบเจอกันบ่อย ๆ คือมาจากพันธุกรรม อีกปัจจัยหนึ่งมาจากฮอร์โมนเพศชายชนิดหนึ่ง ที่มีการโจมตีกับผมทำให้ค่อย ๆ บางลงจนหลุดไป เพราะหากเป็นจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เชื้อราหรือการอักเสบสามารถใช้วิธีอื่นได้ด้วยการทายาหรือการฉายแสง ไม่ต้องทำศัลยกรรมผมก็ได้
หลักการทั้งสองวิธีมีข้อแตกต่างกันคือระยะเวลาในการทำและรอยแผลหลังจากการทำศัลยกรรมการปลูกผมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านควรทำแบบมาตรฐานหรือวิธีการปลูกผมแบบ FUT ซึ่งเป็นวิธีการที่มีโอกาสในการเกิดใหม่ของผมมากกว่าวิธีการที่สองที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเส้นผมในปริมาณที่น้อยหรือต้องการเติมขนบริเวณคิ้ว เครา หรือขนขา แขนมากกว่าวิธีการมาตรฐานถึงแม้จะเป็นวิธีการที่มีรอยแผลยาวแต่สามารถเกิดการเติบโตของเส้นผมใหม่ได้ถึง 99% ซึ่งต่างจากวิธีการ FUE ที่มีโอกาสรอดของเซลล์ผมเพียง 10-15% เท่านั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมปลูกผมได้นะคะ
มาทำความรู้จักเกี่ยว โบท็อกซ์ (Botox) ที่ใครหลายๆคนนั้น […]
หัวข้อเนื้อหาในเรื่องนี้ อัลเทอร่าหรืออีกชื่อที่เราเรีย […]
ความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อจิตใจของคนเราเป็ […]
การเสริมจมูก หรือ ศัลยกรรมจมูก (Rhinoplasty) คือ การทำศ […]
ศัลยกรรม คือ การตกแต่งหรือการเสริมเข้าไปผ่านการผ่าตัดมี […]