หัวข้อเนื้อหาในเรื่องนี้
การปลูกผมเป็นอีกเทคโนโลยีใหม่อย่างหนึ่งที่เข้ามาทำการศัลยกรรมปลูกผมเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาศรีษะล้าน ผมบาง หรือ มีอาการผมร่วง สาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้จากทางพันธุกรรมและเกิดการร่วงไปตามวัน ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ก็ทำให้มีกรรมวิธีการปลูกผมนี้ขึ้นมาซึ่งที่เห็นกันตามคลีนิคหรือโดยทั่วไปจะพบว่าอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ FUT และ FUE ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีข้อแตกต่างที่สามารถเป็นตัวเลือกให้กับทุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมได้ เรามีข้อมูลดี ๆ และข้อเปรียบเทียบระหว่างกรรมวิธีทั้งสองมาฝากด้วยค่ะ
การปลูกผมมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี
วิธีที่ 1 FUT
เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่ใช้มากกว่า 90% โดยตัดหนังศีรษะที่ท้ายทอยเป็นแผงออกมาจากบริเวณท้ายทอย แล้วทำการแยกเฉพาะรากผมที่ต้องการ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ จนได้หน่วยรากผมที่เล็กที่สุดที่สามารถนำไปปลูกได้ เมื่อนำากผมไปปลูกบริเวณที่ต้องการผมจะเข้าสู่ระยะพัก โดยจะปริดร่วงไปก่อนในระยะเวลา 3 สัปดาห์ รากผมจะพักและไม่ผลิตเส้นผมเป็นเวลาประมาณ 3-4 เดือน โดยเมื่อแรกเริ่มจะขึ้นมาเป็นขนอ่อน ๆ และค่อยเจริญเติบโตขึ้นเป็นเส้นผมที่แข็งแรงไม่เกิน 12 เดือนเพื่อให้เห็นผลการรักษา วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ได้รับมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุด
ข้อดี FUT
- เป็นแผลแบบปิดโอกาสในการติดเชื้อน้อย 1 %
- วิธีการนี้สามารถเห็นผลลัพท์ได้อย่างชัดเจน 99 %
- สามารถทำได้ครั้งละมาก ๆ ถึง 2,500 กราฟ
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง
- สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้านจากพันธุกรรม ได้อย่างถาวร
ข้อเสีย FUT
- แผลมีลักษณะเป็นแนวยาว
วิธีที่ 2 FUE
เมื่อการผ่าตัดแบบปกติเป็นแบบแผลยาวจึงเกิดเทคนิคใหม่ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความประณีตเป็นอย่างมาก ด้วยการเอารากผมออกจากศีรษะซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ระยะเวลาการทำนานแต่วิธีนี้สามารถนำผมมาปิดบีริเณที่นำเส้นผมออกมาได้เมื่อนำไปปลูกวิธีการนี้จะเห็นผลที่น้อยกว่าวิธีแรกประมาณ 10-15% บวกค่าใช้จ่ายที่มากกว่าแล้วยังเป็นวิธีการที่ทำยากกว่าอีกอย่างไรก็ตามวิธีนี้มีข้อดีตรงบริเวณท้ายทอยจะมีแผลที่เหลือยู่เป็นแผลเล็ก ๆ ขนาดเท่ารูขุมขนแม้จะตัดผมสั้นก็มีโอากาในการมองเห็นน้อย และการพักฟื้นก็น้อยกว่าวิธีมาตรฐานอีกด้วย
ข้อดี FUE
- เป็นวิธีการปลูกแบบใหม่ คนไข้ไม่ต้องรู้สึกมีอาการเจ็บหรืออาจจะเจ็บน้อยกว่าวิธีมาตรฐานบ้างเพราะไม่ได้ตัดเป็นชิ้นเนื้อออกมาและไม่รู้สึกตึงหนังศีรษะอีกด้วย
- วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมในจำนวนที่น้อยหรือ ลูกคิ้ว หนวด เครา ขนแขน ขนขาเป็นต้น
ข้อเสีย FUE
- รากผมที่ดึงออกมาอาจจะไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่ได้ผลลัพท์เท่า FUT สำหรับใครที่มีเส้นผมลักษณะหยัก หยิก หรือโค้งง้อแนะนำให้เป็นวิธี FUE จะดีกว่า เพราะโอกาสในการเกิดใหม่ของเส้นผมจะมากกว่า
- การปลูกผม FUT ค่อนขางที่จะใช้เวลานานและยังมีการใช้บุคคลากรจำนวนมากทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในแตละครั้งจำนวนมากจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใการปลูกผมในจำนวนมากสักเท่าไร
ข้อควรทราบก่อนการปลูกผม
- การศัลยกรรมการปลูกผม ไม่ใช่การเพิ่มจำนวนเส้นผมแต่เป็นการย้ายเซลล์ผมจากด้านหลังมาปลูกด้านหน้าแทน
- การปลูกเซลล์รากผม ไม่ใช่การทำ stem cell
- การทำศัลยกรรมปลูกผมไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุแต่เป็นการช่วยปรับภาพลักษณ์ของเราให้ดีขึ้นโดยเฉพาะกับผู้ที่มีหัวศรีษะล้านหรือมีผมบาง การกินยาประกอบไปด้วยก็เป็นการช่วยเร่งให้ผมเติบโตไวขึ้น
- การปลูกผมทำได้แค่ 40-50% ของผมธรรมชาติ เพราะโอกาสการรอดของเซลล์เส้นผมจะสูงกว่า และหากทำการปลูกหนาแน่นเกินไปอาจทำให้เลือดมาเลี้ยงเซลล์เส้นผมไม่เพียงพอจะทำให้เซลล์ผมนั้นตายได้ ในกรณีที่ต้องการที่จะปลูกครั้งเดียวเยอะ ๆ ไม่แนะนำ ควรกลับมาปลูกซ้ำบริเวณเดิมจะดีกว่า
- การปลูกผมในช่วง 2 เดือนแรกผมที่ปลูกจะร่วงจนเหมือนก่อนการผ่าตัดซึ่งเป็นเรื่องปกติ จากนั้นเซลล์ผมจะทำหน้าที่งอกผมตามธรรมชาติ 80% ในเดือน 6-9 และจะขึ้นเต็มที่ไม่เกิน 12 เดือน
วิธีการศัลยกรรมผม
ขั้นตอนแรกเป็นการโกนผมเพื่อเป็นการเตรียมในการดึงเซลล์รากผมออกมา โดยแพทย์จะทำการแยกเซลล์จากรากผมบริเวณหลังศรีษะหรือท้ายทอยหลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือในการแยกเซลล์ชนิดพิเศษและเ็บไว้ในภาชนะที่สะอาดและปลอดเชื้อ
หลังจากนั้นแพทย์ก็จะทำแบบเดียวกับนับรูขุมขนที่มีปัญหาเรื่องการหลุดร่วงของเส้นผมบางหรือไม่มีเลย เมื่อดึงเซลล์รากผมเก่าออกมาจนหมดทั่วบริเวณ ต่อไปก็เป็นการปลูกผมใหม่เข้าไปในรูเซลล์รากผมเดิม เพียงเท่านี้ก็เสร็จสำหรับการศัลยกรรมปลูกผม หลังจากนี้ก็เป็นการดูแลักษาเซลล์รากผมใหม่ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยมทุกกระวบการทำแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยการส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์สเตอริโอที่มีประสิทธิภาพสูงในการขยายภาพเซลล์รากผมให้เห็นได้อย่างชัดเจน
หลังการปลูกผมควรดูแลตัวเองอย่างไร
- หลังจากการปลูกผมควรนอนหมอนที่สูง โดยใช้หมอนหลายใบ ไม่ให้ไปแตะบริเวณที่ปลูกใหม่วันถัดมา กลับมาที่ลีนิคเพื่อสระผมและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดก็ช่วยให้ผมขึ้นมาใหม่ได้อย่างสวยงามได้ค่ะ
- ไม่ออกแดด ป้องกันพยายามห้ามมีเหงื่อหรือมีก็เพียงเล็กน้อย
สำหรับการปลูกผมเหมาะสำหรับคนศรีษะแบบไหน
- คนที่อาการผมร่วงมาก
- ศรีษะล้านจากพันธุกรรมที่เหมาะสมกับการปลูกผม
- ผมบาง
- ผมร่วง
- ต้องการมี คิ้ว ขน เครา เพิ่ม
สาเหตุการเกิดผมร่วง
สาเหตุโดยทั่วไปที่อาจพบเจอกันบ่อย ๆ คือมาจากพันธุกรรม อีกปัจจัยหนึ่งมาจากฮอร์โมนเพศชายชนิดหนึ่ง ที่มีการโจมตีกับผมทำให้ค่อย ๆ บางลงจนหลุดไป เพราะหากเป็นจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เชื้อราหรือการอักเสบสามารถใช้วิธีอื่นได้ด้วยการทายาหรือการฉายแสง ไม่ต้องทำศัลยกรรมผมก็ได้
หลักการทั้งสองวิธีมีข้อแตกต่างกันคือระยะเวลาในการทำและรอยแผลหลังจากการทำศัลยกรรมการปลูกผมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านควรทำแบบมาตรฐานหรือวิธีการปลูกผมแบบ FUT ซึ่งเป็นวิธีการที่มีโอกาสในการเกิดใหม่ของผมมากกว่าวิธีการที่สองที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเส้นผมในปริมาณที่น้อยหรือต้องการเติมขนบริเวณคิ้ว เครา หรือขนขา แขนมากกว่าวิธีการมาตรฐานถึงแม้จะเป็นวิธีการที่มีรอยแผลยาวแต่สามารถเกิดการเติบโตของเส้นผมใหม่ได้ถึง 99% ซึ่งต่างจากวิธีการ FUE ที่มีโอกาสรอดของเซลล์ผมเพียง 10-15% เท่านั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมปลูกผมได้นะคะ